จอห์น ดอลตัน
ในปี พ.ศ. 2346 (ค.ศ. 1803) จอห์น ดอลตัน นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้เสนอทฤษฎีอะตอมเพื่อใช้อธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของมวลของสารก่อนและหลังทำปฏิกิริยา รวมทั้งอัตราส่วนโดยมวลของธาตุที่รวมกันเป็นสารประกอบหนึ่งๆซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
1.ธาตุประกอบด้วยอนุภาคเล็ก ๆ หลายอนุภาค อนุภาคเหล่านี้เรียกว่า“อะตอม” ซึ่งแบ่งแยกไม่ได้ และทำให้สูญหายไม่ได้
2.อะตอมของธาตุชนิดเดียวกันมีสมบัติเหมือนกัน เช่นมีมวลเท่ากัน แต่จะมีสมบัติต่างจากอะตอมของธาตุอื่น
ทฤษฎีอะตอมของดอลตันใช้อธิบายลักษณะและสมบัติของอะตอมได้เพียงระดับหนึ่ง แต่ต่อมานักวิทยาศาสตร์ค้นพบข้อมูลบางประการที่ไม่สอดคล้องกับทฤษฎีอะตอมของ ดอลตัน เช่น พบว่าอะตอมของธาตุชนิดเดียวกันอาจมีมวลแตกต่างกันได้ อะตอมสามารถแบ่งแยกได้
ข้อบกพร่องของทฤษฎีอะตอม
1.ทฤษฎีกล่าวว่าอะตอมเป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดและไม่สามารถแบ่งแยกได้ จากการศึกษาทางนิวเคลียร์ฟิสิกส์พบว่าอะตอมไม่ใช่อนุภาคที่เล็กที่สุด แต่ประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กกว่าคือ โปรตอน นิวตรอน อิเล็กตรอนและสามารถแบ่งแยกออกเป็นอนุภาคเล็ก ๆ ได้
1.ทฤษฎีกล่าวว่าอะตอมเป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดและไม่สามารถแบ่งแยกได้ จากการศึกษาทางนิวเคลียร์ฟิสิกส์พบว่าอะตอมไม่ใช่อนุภาคที่เล็กที่สุด แต่ประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กกว่าคือ โปรตอน นิวตรอน อิเล็กตรอนและสามารถแบ่งแยกออกเป็นอนุภาคเล็ก ๆ ได้
2. ทฤษฎีกล่าวว่าอะตอมทำให้เกิดใหม่หรือสูญหายไม่ได้ ในทางนิวเคลียร์ฟิสิกส์สามารถทำให้อะตอมของธาตุชนิดหนึ่งเปลี่ยนแปลงไปเป็นอีกชนิดหนึ่งและสามารถประดิษฐ์อะตอมของธาตุใหม่ที่ไม่พบในธรรมชาติ ได้แก่ ธาตุที่ 93-105 แสดงว่าอะตอมทำให้เกิดใหม่หรือสูญหายได้ธาตุเดียวกันอาจมีสมบัติต่างกัน
3. ทฤษฎีกล่าวว่าสารประกอบเกิดจากการรวมตัวของอะตอมของธาตุต่างชนิดกัน โดยมีอัตราส่วนจำนวนอะตอมคงที่ ข้อนี้เป็นจริงจนปัจจุบัน
ภาพแสดงแบบจำลองอะตอมของดอลตัน
แบบจำลองอะตอมของดอลตันได้นำมาใช้อย่างแพร่หลาย ต่อมามีการทดลองใหม่ๆได้ผลการทดลองที่ไม่สามารถใช้แบบจำลองอะตอมของดอลตันอธิบายได้ เช่น ปรากฏการณ์ในหลอดรังสีแคโทด นักวิทยาศาสตร์จึงพัฒนาแบบจำลองขึ้นมาใหม่
ที่มา : https://sites.google.com/site/hataichonok/bth-thi-1-lok/1-1-baeb-calxng-xatxm/1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น